แอร์โฟร์ คืออะไร ทำหน้าที่อะไร
ระบบการทำงานของเครื่องยนต์ของรถหนึ่งคันนั้นมีอยู่หลายส่วน หนึ่งในส่วนหลักนั้นคือ ระบบไอดี (Air Intake System) มีหน้าที่ในการเอาอากาศที่สะอาดเข้ากระบอกสูบตามปริมาตรที่ต้องการ ส่วนประกอบของระบบไอดี ได้แก่ แอร์โฟร์ ลิ้นปีกผีเสื้อ MAP SENSOR หม้อกรองอากาศ ท่อไอดี โดยหนึ่งในอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์ของระบบไอดี ที่สำคัญที่อยากแนะนำให้รู้จัก คือ แอร์โฟร์ พอได้ยินคำนี้หลาย ๆ คนอาจรู้สึกคุ้นหู แต่ก็คงมีอีกหลายคนที่อาจทำหน้าสงสัยพร้อมบอกไม่เคยรู้จักมาก่อน เราจะไปทำความรู้จักพร้อมๆกัน
แอร์โฟร์ หรือ Mass Airflow Sensor – AF หรือที่เรียกกันว่า มาตรมวลวัดอากาศ ตำแหน่งของมันส่วนใหญ่จะถูกติดตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับกรองอากาศของรถยนต์ ตามรูป (1) และ (2) หน้าที่หลักของอุปกรณ์ชนิดนี้ คือ ช่วยวัดระดับการไหลเวียนของอากาศผ่านท่อร่วมไอดี การวัดอากาศที่ว่านี้จะดูที่เรื่องของความเร็วในส่วนของอากาศที่มีการไหลผ่านเซ็นเซอร์เพื่อส่งสัญญาณเข้ากล่องควบคุมเครื่องยนต์ (ECU) จากนั้น ECU ก็จะนำข้อมูลที่ได้นี้ไปใช้ประมวลผลเพื่อสั่งการใช้งานในการควบคุมเครื่องยนต์ในส่วนของ ปริมาณน้ำมันที่จะต้องอัดฉีด
นอกจากนั้นแล้ว ข้อมูลที่ได้จากแอร์โฟร์ ที่ส่งผ่านไปยังกล่อง ECU จะใช้ค่านี้กำหนดจังหวะในการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ ซึ่งถ้ามาตรมวลวัดอากาศ ทำงานไปไม่ปกติ จังหวะการจุดระเบิดก็จะรวน ส่งผลให้ระบบเครื่องยนต์ทำงานไม่ปกติ
อาการของรถที่เกิดขึ้นเมื่อ แอร์โฟร์ เสียหาย
โดยปกติทั่วไปนั้น แอร์โฟร์ ไม่ใช่อุปกรณ์ที่จะเกิดการเสียหายได้ง่าย แต่ถ้าหากเจอกับสิ่งสกปรก อาทิเช่น ฝุ่นละอองต่าง ๆ หรือ คราบน้ำมัน ติดอยู่หนาแน่นเกินไป รวมไปถึงอุปกรณ์โดนน้ำ ระดับความชื้นขึ้นสูง เฉกเช่นนี้จะเพิ่มโอกาสสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์ชนิดนี้ได้ง่ายกว่าปกติ เมื่อไหร่ก็ตามที่ Airflow เกิดความเสียหาย การขับขี่ของรถยนต์จะเริ่มมีอาการแปลกไป ผู้ขับขี่จะสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นที่ได้ดังนี้
- รถยนต์เมื่อวิ่งรอบเบา แล้วจะเกิดอาการรถดับ อาการนี้จะชัดเจนที่สุด กล่าวคือ เวลาที่รถเดินรอบเบามักชอบดับแบบไม่มีสาเหตุ เช่น ขับรถไป เจอทางกลับรถกำลังชะรอความเร็วเมื่อรอบรถตัดเป็นรอบเดินเบาอยู่ดี ๆ รถก็ดับกลางอากาศไปเลย หรือบางคนพอจอดรถติดไฟแดงปรากฏรถดับกลางคัน กว่าจะสตาร์ทติดก็ใช้เวลาซักพักเลยทีเดียว
- เร่งไม่ค่อยขึ้น น้ำมันลดลงเร็ว อาการต่อมาที่เริ่มสังเกตได้ชัดเจนมากขึ้นคือ เหยียบคันเร่งแต่รถไม่ไปดังที่ใจต้องการ พูดง่าย ๆ คือ เร่งไม่ขึ้นนั่นแหละ บางคนที่ขับเคยซัดไปได้ระดับ 150 กม./ชม. แต่ถ้า มาตรมวลวัดอากาศ เสียหายอาจเหยียบแต่ความเร็วไปสูงแค่ 100 กม./ชม. ก็ได้
- วิ่งทำระยะรอบได้น้อย สุดท้ายอาการแบบรุนแรงอาจเกิดขึ้นได้ เช่น อาจวิ่งแค่ 2,000 รอบ เมื่อใดก็ตามที่เกินรอบรถจะดับเองทันที
อาการเหล่านี้เป็นอาการเบื้องต้นที่ผู้ขับขี่เองสามารถสังเกตุอาการเองได้ อย่างไรก็ตามควรจะนำรถเข้าอู่ซ่อมรถยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญ โดยในส่วนของช่างซ่อมรถเองนั้นจะใช้เครื่อง OBD II (Diagnostic Trouble Code) อ่านค่าจากรหัสที่ขึ้นว่าแอร์โฟร์มีอาการผิดปกติอย่างไร โดยมีรหัสและความหมายดังต่อไปนี้
- P0100 วงจรอัตราการไหลของอากาศ (แอร์โฟร์)
- P0101 การทำงานวงจรอัตราการไหลของอากาศ (แอร์โฟร์)
- P0102 วงจรอัตราการไหลของอากาศ (แอร์โฟร์) ต่ำ
- P0103 วงจรอัตราการไหลของอากาศ (แอร์โฟร์) สูง
- P0104 วงจรอัตราการไหลของอากาศ (แอร์โฟร์) ขาดช่วง
ทั้งนี้หากสรุป การทำงานของแอร์โฟร์นั้นเมื่ออุปกรณ์ชิ้นนี้มีปัญหา ข้อมูลที่ส่งไปยัง ECU ก็จะมีปัญหาตามไปด้วย กล่าวคือ การประมวลผลจะไม่ได้ค่าตามปกติทำให้รถไม่สามารถจ่ายเชื้อเพลิงได้ รวมถึงไม่สามารถทำการจุดระเบิดได้ด้วยเช่นกัน วิธีการดูแลเบื้องต้น คือ หมั่นเปลี่ยนกรองอากาศ หลังการถ่ายน้ำมันเครื่องพร้อมทำความสะอาดอยู่เสมอ
…มีประโยชน์มากครับ/ขอบคุณ
ข้อมูลดีมากๆเลยครับ เพราะเจอกับตัวเอง
ดีครับสำหรับผู้ใช้รถจำป็นต้องรู้เป็นอย่ามากเนื้อหาที่ให้มาข้าใจง่ายดี
มันเกิดขึ้นกับผมแล้ว ผมใช้รถอัลติสปี2004 (19 ปี) ตอนเช้าสตาร์รถไม่ติด เสียงบอกว่าจะติด พอเหยียบคันเร่ง เสียงแกรกๆเบาลงแล้วดับ
เข้าใจว่า ไม่จ่ายน้ำมัน ติกเสีย
เปลี่ยนกรองเบนซิน ก็ยังสตาร์ทไม่ติด เลยให้ช่างใช้ OBD2 SCANNER
code ฟ้อง P0100 .. จบ
มีประโยชน์มากครับทำให้รู้ปัญหาที่แท้จริง
มีประโยชน์มากครับ
แจ่มมากคับ เป็นสิ่งที่ผมพึ่งรู้จิงๆ รถดับเป็นประจำเวลาชะลอแล้วออกตัว
เข้าใจง่ายดีและเป็นประโยชน์มากๆครับ
ขอบคุณข้อมูลครับ มีประโยน์ ครับ ผมยังไม่เคยเปลี่ยนเลย camry 07 มีอาการใกล้เคียง ว่าจะไปเปลี่ยนครับ